ภาพรวมตอนนี้คือการทุ่มเม็ดเงินลงทุนมหาศาลเพื่อสร้างความได้เปรียบด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Compute Power) และการเร่งผสาน AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์หลักเพื่อแย่งชิงผู้ใช้งานทั่วไป
🚀 OpenAI: จับมือ Nvidia ปิดดีลประวัติศาสตร์!
นี่คือข่าวใหญ่ที่สุดในรอบสัปดาห์ที่สะเทือนทั้งวงการเทคโนโลยี:
-
Nvidia ประกาศลงทุนใน OpenAI สูงสุดถึง 1 แสนล้านดอลลาร์: ถือเป็นการจับมือกันครั้งประวัติศาสตร์ โดย Nvidia จะไม่ได้ให้เงินสดโดยตรง แต่เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้าง AI Infrastructure แห่งอนาคต
-
สร้าง AI Datacenter ขนาด 10 Gigawatts: OpenAI จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงชิปและระบบประมวลผลรุ่นล่าสุดของ Nvidia (โค้ดเนม "Vera Rubin") เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลสำหรับเทรนและรันโมเดล AI ยุคถัดไป โดยเฟสแรกจะเริ่มติดตั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2026
-
เป้าหมาย: การลงทุนครั้งนี้จะช่วยการันตีว่า OpenAI จะมีพลังการประมวลผลที่เพียงพอสำหรับการพัฒนาโมเดล AI ไปสู่ระดับ Superintelligence และยังเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านฮาร์ดแวร์ AI ของ Nvidia อย่างชัดเจน
บทวิเคราะห์: ดีลนี้ทำให้ OpenAI ทิ้งห่างคู่แข่งในด้านพลังการประมวลผลไปอีกหลายก้าว และเป็นการส่งสัญญาณว่าสงคราม AI ในยุคต่อไปจะวัดกันที่ใครมีโครงสร้างพื้นฐานที่ทรงพลังกว่ากัน
✨ Google Gemini: อัปเดตชุดใหญ่ รุกฆาตทุกแพลตฟอร์ม
Google ไม่ได้อยู่นิ่งเฉยและปล่อยอัปเดต Gemini ออกมาพร้อมกันหลายส่วนเพื่อตีตลาดในทุกมิติ:
-
Gemini ถูกผนวกเข้ากับเบราว์เซอร์ Chrome แล้ว: สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา Gemini จะเริ่มปรากฏในเบราว์เซอร์ Chrome บนเดสก์ท็อป ช่วยให้สามารถสรุปเนื้อหาในหน้าเว็บ, ตอบคำถามจากบริบทของแท็บที่เปิดอยู่ได้ทันที เป็นการเดินเกมสู้กับ Copilot ของ Microsoft โดยตรง
-
"Gemini Drop" อัปเดตฟีเจอร์ใหม่ในแอป:
-
Nano Banana: โมเดลแก้ไขภาพตัวใหม่ที่สร้างกระแสไวรัล
-
Gemini Live: สามารถแชร์ภาพจากกล้องมือถือให้ Gemini ช่วยวิเคราะห์และแนะนำแบบเรียลไทม์ได้แล้ว
-
แชร์ Custom Gems: ผู้ใช้สามารถสร้าง "Gems" หรือ AI ที่ปรับแต่งมาเฉพาะทางแล้วแชร์ให้คนอื่นใช้ได้
-
-
เปิดตัว Gemini 2.5: มีการอัปเดตโมเดลพื้นฐานให้มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์และให้เหตุผลที่ซับซ้อนสูงขึ้น พร้อมปล่อย API ใหม่ๆ ให้นักพัฒนาใช้งานบน Google Cloud
บทวิเคราะห์: กลยุทธ์ของ Google คือการทำให้ Gemini เข้าถึงง่ายที่สุดในทุกแพลตฟอร์มที่ตัวเองครองตลาดอยู่ (Search, Chrome, Android) เพื่อสร้างความได้เปรียบด้านจำนวนผู้ใช้งาน
🌐 ภาพรวมวงการ AI: การแข่งขันดุเดือดและเทรนด์ใหม่
นอกเหนือจาก 2 ยักษ์ใหญ่แล้ว ผู้เล่นรายอื่นและเทรนด์ของโลกก็กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว:
-
Apple เร่งเครื่องอัปเกรด Siri: มีข่าวว่า Apple กำลังพัฒนาระบบ AI ตัวใหม่ในชื่อ "World Knowledge Answers" เพื่อยกเครื่อง Siri ให้มีความฉลาดทัดเทียมกับคู่แข่ง และคาดว่าจะถูกนำไปใช้ใน Safari และ Spotlight search ด้วย
-
เทรนด์ "Sovereign AI" มาแรง: หลายประเทศเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการมีโครงสร้างพื้นฐาน AI เป็นของตัวเอง ล่าสุดมีการประกาศโปรเจกต์ "Stargate UK" ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง OpenAI, Nvidia และรัฐบาลอังกฤษ เพื่อสร้างศูนย์ประมวลผล AI สำหรับใช้งานภายในประเทศโดยเฉพาะ
-
AI กับเศรษฐกิจโลก: องค์การการค้าโลก (WTO) ออกรายงานล่าสุดคาดการณ์ว่า หากมีการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างทั่วถึง AI อาจช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าโลกได้ถึง 37% ภายในปี 2040
โดยสรุป สัปดาห์นี้เป็นช่วงเวลาแห่งการ "ทุ่มสุดตัว" ของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเพื่อแย่งชิงความเป็นผู้นำในยุค AI อย่างแท้จริงครับ

