บทความ

7 ขั้นตอน Funnel Marketing เพิ่มยอดขายจากการเข้าใจลูกค้า

7 ขั้นตอน Funnel Marketing เพิ่มยอดขายจากการเข้าใจลูกค้า

Loading

Funnel Marketing ช่วยธุรกิจนำลูกค้าเป้าหมายจากการรับรู้จนถึงการซื้ออย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ข้อมูลวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อเพิ่มยอดขายและความสำเร็จ

ในโลกการตลาดดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูง การทำให้ลูกค้าเป้าหมายเดินทางจากการรู้จักแบรนด์จนถึงการตัดสินใจซื้อไม่ใช่เรื่องง่าย Funnel Marketing คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการและพาลูกค้าเดินทางผ่านแต่ละขั้นตอนของการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เขียนจะพาคุณไปสำรวจว่า Funnel Marketing คืออะไร, เครื่องมือที่ใช้, ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ, และวิธีการทำ Funnel Marketing อย่างเป็นขั้นตอนเพื่อให้ธุรกิจเติบโต

7 ขั้นตอน Funnel Marketing เพิ่มยอดขายจากการเข้าใจลูกค้า

Funnel Marketing คืออะไร?

Funnel Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการพาลูกค้าเป้าหมายเดินทางผ่านขั้นตอนการตัดสินใจที่ชัดเจน ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ (Awareness) ไปจนถึงการซื้อ (Purchase) หรือการรักษาลูกค้า (Retention) กระบวนการนี้เปรียบเสมือนกรวยที่ค่อย ๆ คัดกรองลูกค้าที่สนใจจากการรู้จักแบรนด์ในวงกว้าง จนมาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อหรือกลับมาใช้บริการซ้ำ

ใหม่ล่าสุด! “Digital Marketing Masterclass 2025" เป็นคอร์สเรียนรู้การตลาดดิจิทัลยุคใหม่ ทั้ง Growth, Performance, Data-driven, และ Customer Experience Marketing เพื่อสร้างการเติบโตและตอบโจทย์ลูกค้า สมัครเรียนออนไลน์ผ่านระบบ Google Meet สอนโดย พันธุ์ทิตต์ สิรภพธาดา …คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม…

วิธีการทำ Funnel Marketing อย่างเป็นขั้นตอน

  1. วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย (Target Audience Analysis)
    • เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายโดยการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น อายุ, พฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์, ความสนใจ และปัญหาที่พวกเขาเผชิญ
    • สร้าง Customer Persona เพื่อให้การสื่อสารและการตลาดตรงจุดและเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น
  2. สร้างการรับรู้ (Awareness)
    • การสร้างการรับรู้เป็นขั้นแรกของ Funnel ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์หรือสินค้า โดยใช้สื่อออนไลน์ต่าง ๆ เช่น SEO, โฆษณาบน Google, โซเชียลมีเดีย (Facebook, Instagram, YouTube)
    • คอนเทนต์ที่ใช้ในขั้นนี้ควรเน้นการให้ข้อมูลเบื้องต้นและทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ เช่น บทความ, วิดีโอ, หรือโพสต์ในโซเชียลมีเดีย
  3. สร้างความสนใจ (Interest)
    • หลังจากที่กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์แล้ว ขั้นต่อไปคือการสร้างความสนใจโดยการให้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น การใช้ Lead Magnet เช่น การแจกอีบุ๊คฟรีหรือการลงทะเบียนทดลองใช้ฟรี เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าสมัครสมาชิกหรือรับข้อมูลเพิ่มเติม
    • เครื่องมือที่ใช้ได้ เช่น อีเมล, วิดีโอสาธิตสินค้า, บทความเชิงลึกที่ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
  4. สร้างการพิจารณา (Consideration)
    • ขั้นตอนนี้เป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าพิจารณาซื้อสินค้าหรือบริการของเรา โดยสามารถใช้การส่ง อีเมลตามพฤติกรรม เช่น การส่งอีเมลเกี่ยวกับสินค้าที่ลูกค้าดู หรือข้อเสนอพิเศษที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของลูกค้า
    • การใช้ Landing Page เพื่อสร้างข้อเสนอเฉพาะในการทดลองใช้ หรือการเสนอส่วนลดพิเศษเพื่อกระตุ้นการซื้อ
  5. การกระตุ้นให้ซื้อ (Purchase)
    • ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำ Funnel Marketing คือการพาลูกค้าไปสู่การตัดสินใจซื้อจริง การใช้ข้อเสนอพิเศษในช่วงเวลาจำกัด เช่น การให้ส่วนลดเฉพาะช่วง, ข้อเสนอ Bundle หรือการส่งข้อความกระตุ้นผ่านโซเชียลมีเดียสามารถช่วยเร่งการตัดสินใจได้
    • เครื่องมือ เช่น Google Ads, Retargeting Ads, อีเมลติดตาม
  6. การรักษาลูกค้า (Retention)
    • การรักษาลูกค้าให้กลับมาใช้บริการซ้ำเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างรายได้ระยะยาว การส่งอีเมลติดตามหลังจากที่ลูกค้าใช้บริการเสร็จแล้ว หรือการให้โปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า เช่น โปรแกรมสะสมแต้ม เป็นวิธีที่สามารถเพิ่มความภักดีได้
    • เครื่องมือ เช่น CRM, Customer Loyalty Programs
  7. การวัดผลและปรับปรุง Funnel (Analysis and Optimization)
    • สุดท้ายคือการวัดผลการทำงานของ Funnel ว่ามีประสิทธิภาพแค่ไหน โดยดูจาก Conversion Rate, Customer Lifetime Value (CLV) และ ROI จากแต่ละขั้นตอนของ Funnel และทำการปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในอนาคต
    • ใช้เครื่องมือเช่น Google Analytics, HubSpot, หรือ Salesforce ในการวัดผล

เครื่องมือที่ใช้ใน Funnel Marketing

การทำ Funnel Marketing ให้มีประสิทธิภาพต้องอาศัยการใช้เครื่องมือที่หลากหลายตามขั้นตอนของลูกค้าแต่ละช่วง เช่น:

  • Google Analytics: ใช้ในการติดตามการเข้าชมเว็บไซต์และตรวจสอบว่าลูกค้าอยู่ในขั้นตอนใดของ Funnel
  • Facebook Ads & Google Ads: สำหรับสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง
  • Email Marketing Tools (เช่น Mailchimp, HubSpot): ใช้ในการสร้างความสนใจและการพิจารณาผ่านอีเมล
  • CRM Tools (เช่น Salesforce, Zoho CRM): ใช้ในการติดตามลูกค้าในขั้นตอนต่าง ๆ ของ Funnel
  • Landing Page Tools (เช่น Unbounce, Instapage): สำหรับสร้างหน้า Landing Page ที่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นลูกค้า
7 ขั้นตอน Funnel Marketing เพิ่มยอดขายจากการเข้าใจลูกค้า

ตัวอย่างการทำ Funnel Marketing ในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ

ตัวอย่าง 1: HubSpot

HubSpot ใช้ Funnel Marketing ในการดึงดูดลูกค้าผ่าน Content Marketing โดยสร้างบทความและวิดีโอที่เน้นการให้ข้อมูล จากนั้นใช้การทำ Lead Nurturing ผ่านอีเมลเพื่อส่งเนื้อหาต่อเนื่อง เมื่อเวลาผ่านไป ลูกค้าเริ่มพิจารณาและทดลองใช้ซอฟต์แวร์ฟรีของ HubSpot ก่อนที่จะอัปเกรดเป็นแพ็กเกจที่จ่ายเงิน ผลลัพธ์คือการเพิ่มลูกค้าจากการรับรู้ถึงการซื้อ

ตัวอย่าง 2: Dropbox

Dropbox ใช้ Funnel Marketing เพื่อขยายฐานผู้ใช้งานผ่านกลยุทธ์ Referral Program โดยเสนอพื้นที่จัดเก็บข้อมูลฟรีให้กับผู้ใช้ที่แนะนำเพื่อนมาใช้บริการ กระบวนการนี้ช่วยให้ Dropbox ขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและประหยัดค่าโฆษณา


ตัวอย่างการทำ Funnel Marketing ในประเทศไทย

ตัวอย่างการทำ Funnel Marketing ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยสามารถพบได้ในหลายธุรกิจ โดยเฉพาะในธุรกิจที่มีการใช้งาน อีคอมเมิร์ซ และ บริการออนไลน์ หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจคือ Shopee ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมในประเทศไทย Shopee ใช้กลยุทธ์ Funnel Marketing อย่างมีประสิทธิภาพในการพาลูกค้าผ่านทุกขั้นตอนของ Funnel ตั้งแต่การรับรู้ถึงการซื้อและการรักษาลูกค้า

ตัวอย่างการทำ Funnel Marketing ของ Shopee:

  1. Awareness (การรับรู้)
    • Shopee ใช้โฆษณาผ่าน Facebook Ads และ Google Ads รวมถึงการทำ SEO เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้จักแพลตฟอร์มและโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ
    • นอกจากนี้ Shopee ยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น Shopee 9.9 หรือ Shopee 11.11 ที่เป็นแคมเปญระดับใหญ่ เพื่อสร้างกระแสและการรับรู้ผ่านการใช้ Influencer และการโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย
  2. Interest (ความสนใจ)
    • หลังจากที่ผู้ใช้รู้จักแพลตฟอร์ม Shopee จะสร้างความสนใจผ่านการทำแคมเปญ Flash Sale และการส่งอีเมลแจ้งเตือนเกี่ยวกับดีลหรือสินค้าที่ลดราคาพิเศษ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาดูสินค้า
    • Shopee ยังใช้ Push Notifications ผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งานให้กลับเข้ามาที่แอป
  3. Consideration (การพิจารณา)
    • Shopee ใช้การทำ Retargeting Ads โดยแสดงโฆษณาสินค้าที่ผู้ใช้งานเคยดูหรือเพิ่มในรถเข็นแต่ยังไม่ได้ซื้อ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้งานกลับมาพิจารณาสินค้าดังกล่าวอีกครั้ง
    • Shopee ยังมีการส่ง คูปองส่วนลดพิเศษ สำหรับลูกค้าที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
  4. Purchase (การซื้อ)
    • Shopee ใช้เทคนิค Free Shipping และการเสนอ ส่วนลดพิเศษ ในช่วงเวลาจำกัดเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้งานทำการสั่งซื้อทันที
    • นอกจากนี้ Shopee ยังมีระบบการจ่ายเงินที่หลากหลายและสะดวก เช่น การเก็บเงินปลายทาง การชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ e-Wallet เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
  5. Retention (การรักษาลูกค้า)
    • Shopee มี Shopee Coins หรือระบบสะสมแต้มที่ลูกค้าสามารถสะสมได้เมื่อซื้อสินค้าและนำมาใช้ลดราคาครั้งต่อไป ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าอีก
    • Shopee ยังมีการส่ง อีเมลแจ้งเตือนสินค้าที่น่าสนใจ หรือโปรโมชั่นพิเศษให้ลูกค้าหลังจากที่ซื้อสินค้า เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกมีความภักดีต่อแพลตฟอร์ม

ผลลัพธ์จากการทำ Funnel Marketing ของ Shopee

Shopee ประสบความสำเร็จอย่างมากในการนำ Funnel Marketing มาใช้ในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขาย การสร้างกิจกรรมและแคมเปญใหญ่ ๆ เช่น Shopee 9.9 และ Shopee 11.11 ไม่เพียงแต่สร้างการรับรู้ แต่ยังช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้รวดเร็วผ่านการใช้งาน Funnel Marketing ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน กระบวนการที่ Shopee ทำให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกในการใช้งานและกลับมาใช้ซ้ำ ช่วยเสริมความภักดีและสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง

การใช้ Funnel Marketing ของ Shopee แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำการตลาดที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ การสร้างความสนใจ จนถึงการกระตุ้นการซื้อ และการรักษาลูกค้า ซึ่งทำให้ Shopee เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทย


บทสรุป… Funnel Marketing เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยให้ธุรกิจพาลูกค้าผ่านการตัดสินใจตั้งแต่การรับรู้ถึงการซื้อ การใช้เครื่องมือดิจิทัลและการวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำจะช่วยให้การตลาดของคุณมีประสิทธิภาพ ผู้เขียนมองว่าการทำ Funnel Marketing ที่ดีควรมีการวัดผลและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้าของคุณเดินทางไปสู่การซื้อได้อย่างราบรื่นและสร้างความภักดีในระยะยาว

ที่ปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัลที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปี ให้กับองค์กรภาคเอกชน อดีตบรรณาธิการนิตยสาร E-Commerce นิตยสารด้านการค้าออนไลน์ฉบับแรกของประเทศไทย นักจัดรายการวิทยุด้านไอที วิทยากรและอาจารย์พิเศษด้านอีคอมเมิรซ์และการตลาดดิจิทัล