สังคมผู้สูงวัยที่อยู่ลำพัง ปัญหาหรืออิสรภาพ?
สังคมไทยเปลี่ยนไป ผู้สูงอายุจำนวนมากต้องอยู่คนเดียว บ้างมองว่านี่คือปัญหา บ้างกลับมองว่าเป็นอิสรภาพ แล้วจริง ๆ แล้วควรเป็นอย่างไร?
สังคมไทยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของโครงสร้างครอบครัวที่เคยมีลักษณะเป็นครอบครัวขยายหลายรุ่นอาศัยอยู่ร่วมกัน ในขณะที่ปัจจุบันหลายครอบครัวเลือกที่จะอยู่แยกกัน ผู้สูงอายุหลายคนจึงต้องเผชิญกับชีวิตที่ต้องอยู่ลำพัง คำถามที่เกิดขึ้นคือ การที่ผู้สูงอายุอยู่คนเดียวเป็นปัญหาหรือเป็นการให้โอกาสพวกเขาได้มีอิสรภาพในชีวิตบั้นปลาย?
เมื่อผู้สูงวัยอยู่ลำพังปัญหาที่มาพร้อมกับวัย
การอยู่คนเดียวของผู้สูงอายุอาจจะไม่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจในยุคปัจจุบันที่สังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ในอีกมุมหนึ่ง การที่ผู้สูงอายุอยู่ลำพังในช่วงวัยบั้นปลายของชีวิตนั้นอาจนำมาซึ่งปัญหาหลายด้าน ทั้งในเรื่องสุขภาพและจิตใจ การที่ไม่มีใครคอยดูแลอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น อาการซึมเศร้า ความเครียด ความเหงา และโรคเรื้อรังต่าง ๆ ที่อาจไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที
หลายครั้งที่ผู้สูงอายุพบว่า การที่ไม่มีใครอยู่ใกล้เคียงเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอาจส่งผลให้ไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้ทันที ตัวอย่างเช่น การล้มในบ้านแล้วไม่สามารถลุกขึ้นเองได้ หรือมีอาการป่วยแต่ไม่สามารถติดต่อใครได้ในเวลานั้น ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการขาดการดูแลทางการแพทย์ การที่ผู้สูงอายุไม่มีรายได้หรือเงินเก็บเพียงพอในยามบั้นปลายของชีวิต ก็ทำให้ต้องพึ่งพาระบบสวัสดิการของรัฐหรือการสนับสนุนจากลูกหลานในบางกรณี
ความเหงาก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นจากการอยู่ลำพัง เมื่อไม่มีเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวมาเยี่ยมเยียน การขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคมทำให้ผู้สูงอายุอาจรู้สึกโดดเดี่ยวและไม่มีคุณค่าในชีวิต ซึ่งนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตและสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ลง
อิสรภาพของผู้สูงวัยทางเลือกใหม่ของชีวิตบั้นปลาย
ในอีกมุมหนึ่ง หลายคนมองว่า การที่ผู้สูงอายุอยู่ลำพังนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นโอกาสในการมีชีวิตที่อิสระ ไม่ต้องถูกจำกัดโดยการดูแลจากลูกหลานหรือครอบครัว ผู้สูงอายุบางคนที่ยังคงมีสุขภาพแข็งแรงและความสามารถในการดูแลตัวเอง มักเลือกที่จะอยู่คนเดียวเพื่อใช้ชีวิตตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานอดิเรกที่รัก การเดินทางท่องเที่ยว หรือการทำกิจกรรมที่สนใจต่าง ๆ
ปัจจุบันเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทำให้ผู้สูงอายุสามารถติดต่อกับลูกหลานหรือเพื่อนฝูงได้สะดวก ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ วิดีโอคอล หรือการใช้โซเชียลมีเดีย แม้จะไม่ได้อยู่ในบ้านเดียวกันก็ยังคงสามารถแลกเปลี่ยนความรู้สึกและติดต่อกันได้บ่อยครั้ง ช่วยให้ลดความรู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยวได้มาก
นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกใหม่สำหรับผู้สูงอายุในรูปแบบของ ชุมชนผู้สูงวัย (Retirement Community) ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ มีสังคมที่ดี มีการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และมีความปลอดภัยในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและไม่รู้สึกถูกทอดทิ้งจากสังคม
มุมมองของลูกหลานระหว่างหน้าที่และวิถีชีวิตยุคใหม่
สำหรับลูกหลานในยุคปัจจุบัน มุมมองต่อการที่ผู้สูงอายุอยู่ลำพังนั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความเข้าใจ ความสัมพันธ์ และภาระหน้าที่ในชีวิตส่วนตัวของพวกเขา ลูกหลานบางคนมองว่า ผู้สูงอายุสามารถดูแลตัวเองได้ และการอยู่ลำพังก็เป็นการให้โอกาสให้พ่อแม่หรือผู้สูงอายุมีอิสระในการใช้ชีวิตตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องพึ่งพาลูกหลานมากเกินไป พวกเขารู้สึกว่าการให้ผู้สูงอายุเลือกวิถีชีวิตที่ต้องการเป็นการเคารพสิทธิ์และความต้องการของพวกเขาเอง
ในขณะเดียวกันก็มีลูกหลานบางกลุ่มที่รู้สึกกังวลหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่พ่อแม่หรือผู้สูงอายุอยู่คนเดียว พวกเขากลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หรือเกิดอุบัติเหตุในขณะที่ไม่มีใครอยู่ใกล้เคียง แม้ว่าจะมีการติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์หรือวิดีโอคอล แต่การดูแลในเชิงปฏิบัติยังคงเป็นสิ่งที่ลูกหลานอยากให้มีมากขึ้น
บางครั้งความกังวลของลูกหลานทำให้พวกเขารู้สึกผิดหรือท้อแท้ เพราะไม่สามารถอยู่ดูแลพ่อแม่ได้ตลอดเวลา บางคนต้องทำงานในที่ห่างไกล หรือมีภาระทางการเงินที่ไม่สามารถรับมือได้เต็มที่ จึงจำเป็นต้องพึ่งพาผู้ช่วยดูแล หรือหาทางเลือกอื่น ๆ เช่น การหาผู้ดูแลหรือการส่งพ่อแม่ไปอยู่ในสถานที่ที่มีการดูแลเฉพาะ
ทางออกที่เป็นไปได้การสร้างระบบรองรับผู้สูงวัยอย่างยั่งยืน
การที่ผู้สูงอายุอยู่ลำพังไม่ควรเป็นปัญหาหากมีการเตรียมตัวและสร้างระบบรองรับที่ดี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้พวกเขายังคงมีความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีไม่ต่างจากการอยู่กับครอบครัวในอดีต การพัฒนาชุมชนผู้สูงวัยที่มีการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ และไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นมากเกินไปเป็นทางเลือกที่ดี
การเข้าถึงบริการสุขภาพที่สะดวกและทันสมัยเป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุทุกคนควรได้รับ รวมถึงการมีระบบสวัสดิการที่ให้ความช่วยเหลือทั้งในเรื่องการดูแลสุขภาพและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้การใช้เทคโนโลยีในการติดตามสุขภาพและการสื่อสารระยะไกลก็ช่วยลดปัญหาความเหงาและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุได้
สุดท้ายแล้ว ความสำคัญที่สุดคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวัน แต่การแสดงความรักและความใส่ใจผ่านการติดต่อ หรือการช่วยเหลือในยามจำเป็นจะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่าและไม่ถูกทอดทิ้ง
สังคมที่ผู้สูงอายุสามารถอยู่ลำพังได้อย่างมีคุณภาพชีวิต คือสังคมที่เต็มไปด้วยการสนับสนุนทางด้านจิตใจ สังคม และการดูแลที่ดีจากทั้งครอบครัวและรัฐ