WordPress จากบล็อกธรรมดาสู่แพลตฟอร์มเว็บไซต์อันดับ 1 ของโลก
ในโลกดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยเว็บไซต์ WordPress ได้กลายเป็นชื่อที่คุ้นหูและเป็นรากฐานสำคัญของอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน ด้วยสถิติที่น่าทึ่งกว่า 43% ของเว็บไซต์ทั้งหมดบนโลกออนไลน์ นั้นถูกสร้างขึ้นด้วยแพลตฟอร์มนี้ ไม่ว่าจะเป็นบล็อกส่วนตัวเล็กๆ ร้านค้าออนไลน์ที่กำลังเติบโต หรือเว็บไซต์ขององค์กรขนาดใหญ่ WordPress ได้พิสูจน์แล้วถึงความสามารถในการรองรับความต้องการที่หลากหลาย จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับบล็อก WordPress ได้พัฒนาจนกลายเป็นระบบจัดการเนื้อหา (Content Management System หรือ CMS) ที่ครอบคลุมและยืดหยุ่น ความสำเร็จอันน่าทึ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการผสมผสานระหว่างวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้ง เทคโนโลยีที่โดดเด่น และการสนับสนุนอันแข็งแกร่งจากชุมชนผู้ใช้งานทั่วโลก การเติบโตอย่างต่อเนื่องและส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นของ WordPress บ่งชี้ถึงความสอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้สร้างเว็บไซต์และผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นผลมาจากสถาปัตยกรรมที่แข็งแกร่งและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยชุมชนขนาดใหญ่
จุดเริ่มต้นและการก่อตั้ง WordPress
การเดินทางของ WordPress เริ่มต้นจากการต่อยอดซอฟต์แวร์บล็อกที่มีอยู่เดิมชื่อ b2/cafelog ซึ่งเขียนด้วยภาษา PHP และใช้ฐานข้อมูล MySQL โดย Michel Valdrighi ในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2003 คาดการณ์ว่ามีบล็อกประมาณ 2,000 บล็อกที่ใช้งาน b2/cafelog อย่างไรก็ตาม การพัฒนาและสนับสนุน b2/cafelog ได้หยุดชะงักลงโดยผู้สร้างเดิม ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมาก รวมถึง Matt Mullenweg มองหาทางเลือกอื่นหรือแนวทางการพัฒนาต่อยอด Mullenweg มีความปรารถนาที่จะสร้างแพลตฟอร์มบล็อกที่ทันสมัยกว่า ใช้งานง่ายกว่า และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยคุณสมบัติที่ได้รับการปรับปรุงและประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น การตัดสินใจของ Mullenweg ในการต่อยอดโครงการ b2 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการตอบสนองความต้องการของชุมชนบล็อกเกอร์ตั้งแต่เริ่มต้น
WordPress ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 พฤษภาคม 2003 โดยมีเป้าหมายเริ่มต้นคือการสร้างเวอร์ชันที่ได้รับการปรับปรุงของ b2/cafelog ให้ตอบสนองความต้องการในการเขียนบล็อกของ Mullenweg และ Mike Little ได้ดียิ่งขึ้น พวกเขามุ่งมั่นที่จะนำเสนออินเทอร์เฟซผู้ดูแลระบบที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เทมเพลตที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถสร้างหน้าเว็บในสไตล์ที่หลากหลาย และประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ตรงไปตรงมา นอกจากนี้ ในปี 2004 การเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านลิขสิทธิ์ของ Movable Type ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกยอดนิยมในขณะนั้น ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ผู้ใช้งานจำนวนมากหันมาใช้ WordPress ซึ่งเป็นทางเลือกที่ฟรีและโอเพนซอร์ส เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าทั้งนวัตกรรมภายในและการเปลี่ยนแปลงในตลาดภายนอกมีบทบาทสำคัญในการกำหนดความสำเร็จของเทคโนโลยี
ผู้ก่อตั้ง WordPress
บุคคลสำคัญสองท่านที่อยู่เบื้องหลังการก่อตั้ง WordPress คือ แมตต์ มุลเลนเวก และ ไมค์ ลิตเติล


แมตต์ มุลเลนเวก: เกิดเมื่อวันที่ 11 มกราคม 1984 ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา มุลเลนเวกมีความสนใจในเทคโนโลยีและการเขียนบล็อกมาตั้งแต่เนิ่นๆ รวมถึงการใช้งานแพลตฟอร์มโอเพนซอร์ส b2 ซึ่งเขาได้เริ่มมีส่วนร่วมในการเขียนโค้ด ความมุ่งมั่นของเขาในการทำให้การสร้างเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคนเป็นแรงผลักดันหลักในการพัฒนา WordPress เขาเป็นผู้มีวิสัยทัศน์หลักและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนา WordPress ร่วมกับ Mike Little ต่อมาในเดือนธันวาคม ปี 2005 มุลเลนเวกได้ก่อตั้งบริษัท Automattic ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง WordPress.com, Jetpack, WooCommerce และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เขาดำรงตำแหน่ง CEO ของ Automattic ในเดือนมกราคม ปี 2014 มุลเลนเวกยังคงมีบทบาทสำคัญในการนำทิศทางของ WordPress ผ่านการกล่าวสุนทรพจน์ประจำปีในงาน “State of the Word” และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะบุคคลสำคัญในโลกอินเทอร์เน็ต ประสบการณ์ส่วนตัวของมุลเลนเวกในการเขียนบล็อกและความสามารถทางเทคนิคเป็นปัจจัยสำคัญในการระบุข้อบกพร่องของแพลตฟอร์มที่มีอยู่และการนำไปสู่การพัฒนา WordPress การก่อตั้ง Automattic แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นระยะยาวของเขาต่อโครงการโอเพนซอร์สนี้
ไมค์ ลิตเติล: เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 1962 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ลิตเติลเป็นนักพัฒนาเว็บชาวอังกฤษที่ได้แสดงความสนใจในการร่วมพัฒนา WordPress หลังจากได้อ่านบล็อกโพสต์ของ Mullenweg เกี่ยวกับการต่อยอด b2/cafelog เขาได้ร่วมมือกับ Mullenweg อย่างใกล้ชิดในการสร้าง WordPress เวอร์ชันแรก (เวอร์ชัน 0.70) ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2003 แม้ว่าลิตเติลจะเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง แต่เขาไม่ได้เข้าร่วมบริษัท Automattic ของ Mullenweg อย่างไรก็ตาม ทั้งสองยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ลิตเติลยังคงมีส่วนร่วมในชุมชน WordPress ในฐานะนักพัฒนาซอฟต์แวร์และผู้สนับสนุนซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส ในเดือนมิถุนายน ปี 2013 เขาได้รับรางวัล “Outstanding Contribution to Digital” จาก SAScon สำหรับบทบาทของเขาในการร่วมก่อตั้งและพัฒนา WordPress ความเต็มใจของลิตเติลในการร่วมงานกับ Mullenweg ตั้งแต่เริ่มต้นมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและเปิดตัว WordPress อย่างรวดเร็ว การอุทิศตนอย่างต่อเนื่องของเขาต่อหลักการโอเพนซอร์สและการมีส่วนร่วมกับชุมชน WordPress แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างยั่งยืนต่อจิตวิญญาณดั้งเดิมของโครงการ
ทำไม Mike Little ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง WordPress จึงไม่ค่อยถูกพูดถึงในวงกว้างเท่า Matt Mullenweg?
แม้ว่า Mike Little จะเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง WordPress อย่างแท้จริง และมีบทบาทสำคัญในช่วงเริ่มต้นของโปรเจกต์ แต่ในภาพรวมของการสื่อสารสาธารณะชื่อของเขามักจะไม่ถูกกล่าวถึงบ่อยเท่า Matt Mullenweg ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ บทบาทและเส้นทางหลังจากการก่อตั้งแตกต่างกัน
หลังจากที่ WordPress เปิดตัว Mike Little เลือกที่จะทำงานในฐานะนักพัฒนาอิสระในอังกฤษ และไม่ได้เข้าไปมีบทบาทในธุรกิจหรือโครงการต่อยอดของ WordPress มากนัก ขณะที่ Matt Mullenweg กลับเดินหน้าอย่างเต็มตัวในการขยาย WordPress สู่ระดับโลกด้วยการก่อตั้ง Automattic และทำหน้าที่เป็น “หน้าตา” และผู้นำด้านวิสัยทัศน์ของแพลตฟอร์ม ทำให้ชื่อของ Matt ถูกกล่าวถึงบ่อยในสื่อ เทคคอนเฟอเรนซ์ และบทสัมภาษณ์ในวงการเทคโนโลยี
อย่างไรก็ตาม ในชุมชน WordPress ที่แท้จริง ชื่อของ Mike Little ยังคงได้รับการยกย่องในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งอย่างแท้จริง และ Matt เองก็ไม่เคยลืมที่จะให้เครดิตกับเขาอยู่เสมอ ในหลายงาน WordCamp และบทสัมภาษณ์ Matt มักจะพูดถึง Mike ว่า “หากไม่มีการตอบกลับของเขาในวันนั้น WordPress อาจไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้”
ลำดับเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ WordPress (Timeline)
ปี | เวอร์ชัน | คุณสมบัติหลัก | รหัสอ้างอิง |
2003 | 0.7 | เปิดตัวครั้งแรก | 17, B1 |
2004 | 1.0 | เปิดตัวระบบปลั๊กอิน | 17, B1 |
2005 | 1.5 | เปิดตัวระบบธีมและหน้า (Pages) | 16, B1 |
2006 | – | Automattic จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า WordPress; จัดงาน WordCamp ครั้งแรก | 16, B1 |
2010 | 3.0 | ก่อตั้ง WordPress Foundation; รวม WordPress MU; เปิดตัวประเภทเนื้อหาแบบกำหนดเอง (Custom Post Types) | 16, B1 |
2018 | 5.0 | เปิดตัว Gutenberg Block Editor | 16, B1 |
2023 | 6.2 | เปิดตัว Full Site Editing อย่างเป็นทางการ | 16, B1 |
2024 | 6.7 | เปิดตัวธีมเริ่มต้นใหม่ ปรับปรุงระบบอัตโนมัติ และเพิ่มความสามารถในการปรับแต่งรูปแบบตัวอักษร | 1, B1 |
ความยิ่งใหญ่และความสำเร็จของ WordPress ในระดับโลก
ความสำเร็จของ WordPress นั้นประจักษ์ได้จากจำนวนเว็บไซต์ที่ใช้งานแพลตฟอร์มนี้ทั่วโลก ในเดือนเมษายน ปี 2025 มีเว็บไซต์กว่า 521 ล้านเว็บไซต์ที่ใช้ WordPress ซึ่งคิดเป็น 43.5% ของเว็บไซต์ทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ต 3 เมื่อพิจารณาเฉพาะเว็บไซต์ที่ใช้ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ส่วนแบ่งตลาดของ WordPress นั้นสูงถึง 61.4% ในเดือนเมษายน ปี 2025 2 ซึ่งหมายความว่าเกือบสองในสามของเว็บไซต์ที่ใช้ CMS ที่รู้จักนั้นขับเคลื่อนด้วย WordPress ส่วนแบ่งตลาดที่โดดเด่นนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ยั่งยืนของ WordPress ในการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้สร้างเว็บไซต์ ความแตกต่างอย่างมากระหว่างส่วนแบ่งตลาดของ WordPress กับคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุด เช่น Shopify (6.7%), Wix (5.1%) และ Squarespace (3.2%) 2 ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำของ WordPress ในตลาดการจัดการเนื้อหาบนเว็บWordPress ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานที่สำคัญของเว็บไซต์สำหรับแบรนด์และองค์กรชั้นนำทั่วโลก เช่น The New York Times, Time Magazine, Sony Music, Disney และแม้แต่ทำเนียบขาว 7 การยอมรับจากแบรนด์เหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความน่าเชื่อถือ ความสามารถในการปรับขนาด และความปลอดภัยของ WordPress นอกจากนี้ WordPress ยังมีบทบาทสำคัญในการทำให้การเผยแพร่เนื้อหาบนเว็บเป็นประชาธิปไตย ทำให้บุคคลทั่วไป ธุรกิจขนาดเล็ก และองค์กรขนาดใหญ่สามารถสร้างและจัดการเว็บไซต์ของตนเองได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคในระดับสูงหรือมีงบประมาณจำนวนมาก 7 ระบบนิเวศที่กว้างขวางและมีชีวิตชีวาของ WordPress ซึ่งรวมถึงธีมและปลั๊กอินนับหมื่นรายการ รวมถึงชุมชนนักพัฒนา นักออกแบบ และผู้ใช้งานทั่วโลกที่ร่วมกันพัฒนา สนับสนุน และสร้างสรรค์นวัตกรรมให้กับแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง 4 ยิ่งตอกย้ำสถานะของ WordPress ในฐานะเสาหลักสำคัญของเว็บยุคใหม่
จุดเด่นของเทคโนโลยี WordPress ที่ทำให้เป็นที่นิยม
ความนิยมอย่างแพร่หลายของ WordPress นั้นไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่เป็นผลมาจากคุณสมบัติทางเทคโนโลยีที่โดดเด่นหลายประการ
ความง่ายในการใช้งานและเข้าถึง: หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จของ WordPress คืออินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ใช้งานง่าย ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดมากนัก ทำให้บุคคลทั่วไปที่มีระดับความเชี่ยวชาญทางเทคนิคที่แตกต่างกันสามารถสร้างและจัดการเว็บไซต์ของตนเองได้ 7 กระบวนการติดตั้งที่ตรงไปตรงมา ซึ่งมักจะมาพร้อมกับการติดตั้งเพียงคลิกเดียวจากผู้ให้บริการโฮสติ้งจำนวนมาก ยิ่งทำให้การเริ่มต้นใช้งานง่ายขึ้น 47 แผงควบคุมที่ใช้งานง่ายของ WordPress ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการเนื้อหา การออกแบบ และการตั้งค่าเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 7 นอกจากนี้ Gutenberg block editor ยังมีอินเทอร์เฟซแบบลากและวางที่ใช้งานง่ายสำหรับการสร้างเนื้อหา 14 การเข้าถึงและความสะดวกในการใช้งานนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้คนจำนวนมากสามารถสร้างสรรค์และเผยแพร่เนื้อหาออนไลน์ได้ง่ายกว่าที่เคย
ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งด้วยธีมและปลั๊กอิน: WordPress มีคลังธีม (Themes) ทั้งฟรีและพรีเมียมจำนวนมาก โดยมีธีมฟรีมากกว่า 13,000 ธีมบน WordPress.org เพียงแห่งเดียว 4 ธีมเหล่านี้มีรูปแบบการออกแบบที่หลากหลาย เหมาะสำหรับเว็บไซต์ประเภทต่างๆ และยังสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ WordPress ยังมีระบบปลั๊กอิน (Plugins) ที่ทรงพลัง โดยมีปลั๊กอินฟรีมากกว่า 59,000 รายการใน WordPress Plugin Directory 4 ปลั๊กอินช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มฟังก์ชันต่างๆ มากมายให้กับเว็บไซต์ของตนได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด ไม่ว่าจะเป็นแบบฟอร์มติดต่อ เครื่องมือ SEO ฟังก์ชันอีคอมเมิร์ซ หรือการเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดีย สถาปัตยกรรมแบบแยกส่วนของ WordPress ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบธีมและปลั๊กอินนี้มอบความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับแต่งที่ไม่มีใครเทียบได้ ทำให้ WordPress สามารถนำไปใช้สร้างเว็บไซต์ได้แทบทุกประเภท
ระบบจัดการเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพ: WordPress มีระบบจัดการเนื้อหาที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ ทำให้การสร้าง แก้ไข และจัดระเบียบเนื้อหาประเภทต่างๆ เป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นบทความ หน้าคงที่ หรือประเภทเนื้อหาแบบกำหนดเอง 7 คุณสมบัติต่างๆ เช่น การแก้ไขแบบเห็นภาพ การทำงานแบบลากและวาง (ด้วย Gutenberg) และความสามารถในการตั้งเวลาการเผยแพร่บทความ ช่วยให้การจัดการเนื้อหาเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือในการจัดระเบียบเนื้อหา เช่น หมวดหมู่และแท็ก ซึ่งช่วยให้การจัดกลุ่มเนื้อหาและการนำทางเว็บไซต์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 16 คลังสื่อ (Media Library) ยังเป็นศูนย์กลางในการจัดการรูปภาพ วิดีโอ และไฟล์สื่ออื่นๆ 48 ระบบจัดการเนื้อหาที่แข็งแกร่งและใช้งานง่ายนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ WordPress เป็นที่นิยมในหมู่บล็อกเกอร์และธุรกิจต่างๆ
ความเป็นโอเพนซอร์สและชุมชนขนาดใหญ่: WordPress เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่ฟรี ภายใต้สัญญาอนุญาตใช้งานแบบ GNU General Public License ซึ่งหมายความว่าทุกคนสามารถดาวน์โหลด ใช้งาน แก้ไข และแจกจ่ายได้อย่างอิสระ 2 ลักษณะโอเพนซอร์สนี้ส่งเสริมความโปร่งใสและกระตุ้นให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ข้อดีของความเป็นโอเพนซอร์ส ได้แก่ การไม่มีค่าลิขสิทธิ์ ความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุงผ่านการตรวจสอบโดยชุมชนและการแก้ไขช่องโหว่อย่างรวดเร็ว และการพัฒนาและปรับปรุงแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่องโดยเครือข่ายผู้ร่วมให้ข้อมูลทั่วโลก 2 ชุมชน WordPress ที่มีขนาดใหญ่และกระตือรือร้น ซึ่งประกอบด้วยผู้ใช้งาน นักพัฒนา นักออกแบบ และผู้ที่สนใจหลายล้านคนทั่วโลก 4 ให้การสนับสนุนอย่างกว้างขวางผ่านฟอรัม บทช่วยสอน และแหล่งข้อมูลออนไลน์ต่างๆ และยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาและวิวัฒนาการของแพลตฟอร์มอย่างแข็งขัน
ผู้ร่วมก่อตั้ง WordPress และบทบาท
ผู้ร่วมก่อตั้งหลักของ WordPress คือ แมตต์ มุลเลนเวก และ ไมค์ ลิตเติล ผู้ซึ่งเริ่มต้นโครงการจากการต่อยอด b2/cafelog การร่วมมือกันในช่วงเริ่มต้นในปี 2003 ได้วางรากฐานสำหรับแพลตฟอร์มนี้
นอกจากนี้ ยังมีบุคคลสำคัญอื่นๆ ที่มีบทบาทในการก่อตั้งและพัฒนา WordPress ในช่วงแรกๆ ได้แก่
- คริสติน เซลเลค เทรมูเลต์: เพื่อนของแมตต์ มุลเลนเวก ผู้ซึ่งเป็นผู้เสนอชื่อ “WordPress” ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้ก่อตั้ง แม้ว่าจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาทางเทคนิคโดยตรง แต่การเสนอชื่อของเธอก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างเอกลักษณ์ของแพลตฟอร์ม
- ไรอัน โบเรน: เป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญในช่วงแรกๆ ของ WordPress เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เสนอแนวคิดเรื่องระบบปลั๊กอิน ซึ่งได้รับการนำไปใช้ใน WordPress เวอร์ชัน 1.2 และกลายเป็นคุณสมบัติที่เปลี่ยนแปลงเกม
- ดอนช่า โอ คาโออิมห์: เป็นอีกหนึ่งนักพัฒนายุคแรกๆ ที่มีชื่อปรากฏร่วมกับมุลเลนเวกและโบเรนในฐานะนักพัฒนา
- มิเชล วัลดริกี: ในฐานะผู้พัฒนาเดิมของ b2/cafelog งานของเขาวางรากฐานสำหรับ WordPress แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง WordPress โดยตรง แต่โค้ดและแนวคิดของเขาเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ วัลดริกียังเป็นนักพัฒนาที่มีส่วนร่วมกับ WordPress จนถึงปี 2005
สถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับ WordPress
- WordPress เวอร์ชัน 6.7 มีจำนวนดาวน์โหลดมากกว่า 31 ล้านครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจและการนำคุณสมบัติล่าสุดของแพลตฟอร์มไปใช้อย่างต่อเนื่อง
- มีเว็บไซต์กว่า 43.5% ทั่วโลกที่ขับเคลื่อนด้วย WordPress ซึ่งหมายถึงเว็บไซต์ที่ใช้งานอยู่หลายร้อยล้านเว็บไซต์
- มีเว็บไซต์ WordPress ใหม่กว่า 10,000 เว็บไซต์ถูกเผยแพร่ทุกวันผ่าน Hostinger เพียงแห่งเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแพลตฟอร์ม
- ระบบนิเวศของ WordPress มีปลั๊กอินฟรีมากกว่า 59,000 รายการในไดเรกทอรีอย่างเป็นทางการ และยังมีตัวเลือกพรีเมียมอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีธีมฟรีมากกว่า 12,000 ธีมบน WordPress.org
- ชุมชน WordPress มีการใช้งานอย่างแข็งขัน โดยมีสมาชิกกว่า 537,000 คนในกลุ่ม Meetup ทั่วโลก 762 กลุ่ม ณ เดือนมิถุนายน 2024 ผู้คนอีกหลายล้านคนมีส่วนร่วมในฟอรัมออนไลน์ กลุ่มโซเชียลมีเดีย และมีส่วนร่วมในการพัฒนาแพลตฟอร์ม
- มีการจัดงาน WordCamp ทั่วโลกมากมายในแต่ละปี ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ใช้งาน นักพัฒนา และผู้ที่สนใจ WordPress ในปี 2024 มีการจัดงาน WordCamp ทั่วโลกถึง 78 งาน
สรุป WordPress กับอนาคตของโลกเว็บไซต์
การเดินทางของ WordPress จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในฐานะซอฟต์แวร์บล็อกไปสู่การเป็นแพลตฟอร์มเผยแพร่เนื้อหาบนเว็บที่โดดเด่นนั้นเป็นเรื่องราวที่น่าทึ่ง ผู้ก่อตั้งอย่าง แมตต์ มุลเลนเวก และ ไมค์ ลิตเติล รวมถึงผู้มีส่วนร่วมในช่วงแรกๆ เช่น ไรอัน โบเรน และ คริสติน เซลเลค เทรมูเลต์ ได้วางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับความสำเร็จในปัจจุบัน จุดเด่นทางเทคโนโลยีของ WordPress เช่น ความง่ายในการใช้งาน ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งผ่านธีมและปลั๊กอิน ระบบจัดการเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพ และพลังของความเป็นโอเพนซอร์สพร้อมด้วยชุมชนขนาดใหญ่ ได้ขับเคลื่อนความนิยมอย่างต่อเนื่องการพัฒนาของ WordPress ยังคงดำเนินต่อไป โดยมีการปรับปรุง Block Editor และคุณสมบัติ Full Site Editing อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีเว็บใหม่ๆ โครงการนี้ยังคงมุ่งมั่นในการปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัย อิทธิพลของ WordPress ต่อเว็บนั้นไม่อาจปฏิเสธได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการส่งเสริมหลักการโอเพนซอร์สและการทำให้การเผยแพร่เนื้อหาออนไลน์เป็นประชาธิปไตย ด้วยความมุ่งมั่นในโอเพนซอร์สและการปรับตัวอย่างต่อเนื่องต่อเทคโนโลยีเว็บใหม่ๆ WordPress จึงอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่จะยังคงเป็นผู้เล่นหลักในการกำหนดอนาคตของอินเทอร์เน็ต และยังคงเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลมากที่สุดในศตวรรษที่ 21